2025-09-05 HaiPress
เงินเฟ้อทั่วไปส.ค.68 ติดลบ 5 เดือนติด ลดลง 0.79% หลังจากราคาพลังงาน และอาหารสดดิ่ง แต่พาณิชย์ ยันยังไม่ใช่เงินฝืด หรือกำลังซื้อหด เหตุเงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักราคาพลังงานและอาหารสดออกยังเติบโต คาดไตรมาส 4 คาดติดลบต่ออีก
น.ส.ณัฐิยา สุจินดา รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทยหรือเงินเฟ้อทั่วไป เดือนส.ค.68 เท่ากับ 100.14 เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.68 ลดลง 0.79% โดยเป็นการติดลบ 5 เดือนติดต่อกัน ซึ่งมีสาเหตุจากการลดลงของราคาสินค้าในกลุ่มอาหารสด โดยเฉพาะผักสด ผลไม้สด และไข่ไก่ เพราะปริมาณผลผลิต รวมถึงกลุ่มพลังงาน จากการลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าไฟฟ้าจากมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ ขณะที่ดัชนีเมื่อเทียบกับเดือนก.ค.68 ลดลง 0.01% อย่างไรก็ตามเงินเฟ้อเฉลี่ย 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) ปี 68 กับช่วงเดียวกันของปี 67 ยังสูงขึ้น 0.08%
“แม้เงินเฟ้อจะลดลงต่อเนื่อง 5 เดือนติดต่อกัน แต่ยังไม่เข้าภาวะเงินฝืด เนื่องจากสาเหตุหลักมาจากราคาพลังงาน และราคาอาหารสดที่ลดลง อีกทั้งเมื่อหักพลังงานและอาหารสดออกจากการคำนวณ จะเห็นได้ว่า เงินเฟ้อพื้นฐานเดือนส.ค.68 ยังคงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สูงขึ้น 0.11% เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.67 และเฉลี่ย 8 เดือนปี 68 ก็สูงขึ้น 0.81% แสดงให้เห็นว่าเงินเฟ้อที่ลดลงไม่ได้มาจากกำลังซื้อที่ลด แต่มาจากราคาสินค้าสำคัญที่มีสัดส่วนมากในรายจ่ายของประชาชน ทั้งพลังงาน และอาหารสดต่ำลงมากกว่า”
สำหรับแนวโน้มเงินเฟ้อทั่วไปเดือนก.ย.68 คาด จะยังลดลงได้ หลังภาครัฐยังคงใช้มาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดเดือนก.ย.-ธ.ค.68 มาอยู่ที่ 15.72 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่ากระแสไฟฟ้าลดลงเหลือ 3.94 บาทต่อหน่วย ขณะที่ราคาผักสดผลไม้สด อยู่ระดับต่ำกว่าปีก่อนหน้า จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยทำให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดมากขึ้น รวมทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และสภาวะการแข่งขันที่อยู่ในระดับสูง
น.ส.ณัฐิยา กล่าวว่า สิ่งที่ต้องจับตาที่อาจทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น ทั้งราคาสินค้าเกษตรบางชนิดและเครื่องประกอบอาหารที่มีแนวโน้มสูงกว่าปีก่อนหน้า เช่น เนื้อสุกร มะขามเปียก กะทิสำเร็จรูป กาแฟ เกลือป่น และน้ำมันพืช เป็นต้น ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลกอาจผันผวนจากกรณียูเครนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของรัสเซีย ซึ่งส่งผลต่ออุปทานของตลาดโลก
“สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุด 115,000 ล้านบาทของรัฐบาลนั้น ยังไม่เห็นผลที่ชัดเจนต่อเงินเฟ้อเพราะยังไม่สิ้นสุดมาตรการ ทำให้คาดว่า ไตรมาส 4 เงินเฟ้อทั่วไปจะยังคงลดลงเล็กน้อย โดยลดลง 0.2% ขณะที่ไตรมาส 3 ลดลง 0.66% โดย สนค.อาจทบทวนเป้าหมายใหม่ แต่ขอดูตัวเลขเดือนก.ย.นี้ก่อน อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ ยังคงคาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปทั้งปี 68 ที่เพิ่มขึ้น 0.0-1.0% โดยมีค่ากลางที่ 0.5%”