2025-07-18 IDOPRESS
กรมเชื้อฯ เปิดชื่อ 5 บริษัท แห่ยื่นขอสิทธิสำรวจปิโตรเลียมบนบก รอบ 25 คาดได้ชื่อผู้ชนะ ธ.ค. นี้ ก่องชง ครม. เคาะ มั่นใจกระตุ้นการลงทุนไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท
นายวรากร พรหโมบล อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า ภายหลังจากประกาศกระทรวงพลังงาน เรื่อง การให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม สำหรับแปลงสำรวจบนบก (ครั้งที่ 25) ภายใต้ระบบสัมปทาน ได้เปิดรับข้อเสนอจากบริษัทผู้ประกอบการ ด้านปิโตรเลียมในการเข้าร่วมขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม บนบก ครั้งที่ 25 ระหว่างวันที่ 1 -16 กรกฎาคม 2568 โดยผลของการยื่นขอสิทธิฯ ครั้งนี้ มีจำนวน 8 คำขอและมีผู้ที่ยื่นขอสิทธิฯ จำนวน 5 ราย ได้แก่
บริษัท ปตท.สผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จำนวน 3 คำขอ
แพน โอเรียนท์ เอ็นเนอยี่ (สยาม) ลิมิเต็ด และ CanAsia Energy Corp. จำนวน 1 คำขอ
บริษัท จีโอเมคคานิคอล เซอร์วิสเซส จำกัด จำนวน 1 คำขอ
อีโค่ โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 1 คำขอ
บริษัท ยูเอซี ยูทิลิตีส์ จำกัด จำนวน 2 คำขอ
สำหรับขั้นตอนการดำเนินการเปิดให้ยื่นขอสิทธิฯ ดังกล่าว ได้มีการเผยแพร่ประกาศเชิญชวนผ่านทางเว็บไซต์กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ โดยบริษัทที่สนใจสามารถดาวน์โหลดประกาศเชิญชวนและเงื่อนไขต่าง ๆ ได้จากทั่วโลก และเปิดห้อง Data room ให้บริษัทผู้สนใจเข้าศึกษาข้อมูล ในการจัดทำข้อเสนอต่อกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ พร้อมทั้งจัดสัมมนา เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลรวมทั้งแนวทาง ข้อกำหนดต่าง ๆ เกี่ยวกับการ ยื่นขอสิทธิฯ
โดยหลังจากกรมได้รายชื่อผู้ยื่นขอสิทธิฯ แล้ว จะพิจารณาและประเมินข้อเสนอของบริษัทฯ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด อย่างรอบคอบ โปร่งใส และเป็นธรรม โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2568 หลังจากนั้นจะนำเสนอผลการคัดเลือกต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอนุมัติ และเมื่อคณะรัฐมนตรีอนุมัติแล้ว กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ จะดำเนินการประกาศผลผู้ชนะ และลงนามในสัมปทานต่อไป
“กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะพิจารณาและประเมินข้อเสนอจากบริษัทที่ยื่นขอสัมปทานอย่างรอบคอบ ภายใต้หลักเกณฑ์ที่ชัดเจน โปร่งใส และเป็นธรรม การที่มีบริษัทชั้นนำทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจเข้าร่วมครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณที่ดีซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของไทย รวมถึงภาคการลงทุนในธุรกิจต่อเนื่องต่าง ๆ เนื่องจากไม่ได้มีการเปิดให้ขอยื่นสัมปทานในพื้นที่ใหม่บนบกมาตั้งแต่ปี 2550 นับเป็นโอกาสสำคัญในการค้นพบแหล่งพลังงานภายในประเทศที่คาดว่า จะมีศักยภาพอยู่ การดำเนินการครั้งนี้”
ทั้งนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ แต่ยังมีส่วนสำคัญในการลดการพึ่งพาการนำเข้าพลังงาน สร้างรายได้และการจ้างงานในพื้นที่ ตลอดจนเปิดโอกาสให้ประชาชน ได้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของประเทศอย่างสูงสุดและยั่งยืน อันเป็นการวางรากฐานที่แข็งแรงให้กับระบบพลังงานของไทยในระยะยาวต่อไป เชื่อมั่นจะเกิดการลงทุนขั้นต่ำจากการเปิดให้ยื่นขอสิทธิฯ ครั้งที่ 25 กว่า 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท