2025-06-05 IDOPRESS
เปิดฉาก TTM+ 2025 สุดยิ่งใหญ่ ขนผู้ประกอบการท่องเที่ยว 450 ราย จาก 53 ประเทศทั่วโลกร่วมงาน คาดรายได้หมุนเวียนกว่า 4,296 ล้านบาท
น.ส.ฐาปนีย์เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)กล่าวว่าททท.ไทยแลนด์ ทราเวล มาร์ท พลัส Thailand Travel Mart Plus (TTM+) 2025ซึ่งเป็นงานส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวระดับนานาชาติในรูปแบบB2Bถือเป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยที่จะได้นำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวจัดขึ้นในวันที่4 – 6มิ.ย. 68ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่ พร้อมนำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย 450 ราย เสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวกว่า406ราย จาก 53ประเทศทั่วโลก คาดสร้างจำนวนนัดหมายเจรจาธุรกิจกว่า 13,000 นัดหมาย รายได้หมุนเวียนกว่า 4,296ล้านบาท
สำหรับงานTTM+2025 ครั้งนี้ ททท. ได้ปรับกลยุทธ์มุ่งกระตุ้นตลาด ทั้งประเทศที่เป็นตลาดท่องเที่ยวหลักและรองของไทย โดยเฉพาะตลาดจีน ซึ่งจะมีผู้ประกอบการถึง97รายจากตลาดจีนที่จะเดินทางเข้ามาทั้งจากเมืองหลักและเมืองรองของสาธารณรัฐประชาชนจีน ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกในการเร่งฟื้นฟูตลาดนักท่องเที่ยวจีน รวมถึงตลาดศักยภาพใหม่ ๆ จากประเทศที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงอาทิ อาร์เจนตินา,บราซิล,ซาอุดีอาระเบีย,เซาท์ แอฟริกา รวมไปถึงภูมิภาคยุโรปตะวันออก
ทั้งนี้เวทีเจรจาธุรกิจTTM+ 2025ต้อนรับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจากทั่วโลก หรือ ผู้ซื้อ (Buyers)จำนวน406ราย จาก53ประเทศทั่วโลกโดยแบ่งเป็นสัดส่วนBuyersที่เข้าร่วมงานจากภูมิภาคเอเชียตะวันออก ร้อยละ33.25อาเซียน เอเชียใต้และแปซิฟิกใต้32.51%ยุโรป26.35%และอเมริกา ตะวันออกกลางและแอฟริกา7.88%ขณะที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย(Sellers)เข้าร่วมจำนวน 450 ราย ประกอบด้วย ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท81.78%ธุรกิจนำเที่ยว 8.44%สถานบันเทิงและสันทนาการ6%ธุรกิจด้านสุขภาพ 0.89%ธุรกิจด้านการคมนาคมขนส่ง 0.44%และธุรกิจอื่น ๆ 2.44%รวมถึงผู้ประกอบการจากเมืองน่าเที่ยว14จังหวัด30หน่วยงาน องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติ (NTO)จากกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS)ได้แก่ ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาและประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้ ได้แก่ ราชอาณาจักรภูฏาน รวมถึงเชิญสื่อมวลชนจากทั้งในและต่างประเทศกว่า108รายเข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย
นอกจากกิจกรรมเจรจาธุรกิจแล้ว ยังมีกิจกรรมไฮไลต์อื่น ๆ เริ่มต้นที่TTM+ Talkในปีนี้ได้นำเสนอภายใต้แนวคิดหลัก (Theme)“The Soul of Thailand: 3F Essentials”โดยถ่ายทอด“Thai Charm”หรือเสน่ห์ไทยผ่าน 3 องค์ประกอบสำคัญของวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับแนวคิด“5 Must Do in Thailand”เปิดด้วยKeynote Speakerนายแพทย์ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานคณะที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ให้เกียรติบรรยายภายใต้หัวข้อ“Thailand Soft PowerOutlook”และ 3Speakersที่พร้อมนำเสนอเสน่ห์ไทยในแง่มุมต่าง ๆ ได้แก่ นายคิม สเต็ปเป้ ประธานกรรมการบริหารBlue Elephant International Groupในหัวข้อ “Flavors of Siam: The Essence of Thai Gastronomy”นายปราโมทย์ เดชะบุญศิริพานิช กรรมการผู้จัดการPAÑPURIหัวข้อ“Fulfillment & Flourish: Thai Wellness Traditions for a Balanced Life”และ นางสาวกมลนาถ องค์วรรณดี,ผู้ประสานงานเครือข่ายFashion Revolution Thailandหัวข้อ “Fabrics of Thai Identity: Opportunities in Local Textiles”ต่อมาคือ กิจกรรมThailand Product Updateฉายภาพสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวไทยที่จะเป็นกุญแจดอกสำคัญในการกระตุ้นการท่องเที่ยวในปีAmazing Thailand Grand Tourism and Sport Year2025
นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมโชว์เคสTravel TechนำเสนอระบบSmart Business AI by TATแพลตฟอร์มเครื่องมือการตลาดอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยAIออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและพันธมิตรด้านการท่องเที่ยวไทย ระบบTATAIการใช้เทคโนโลยีAIช่วยตอบคำถามนักท่องเที่ยวได้ตรงประเด็น รวดเร็ว และแม่นยำTAGTHAiแพลตฟอร์มที่ให้บริการครอบคลุมความต้องการของนักท่องเที่ยวในการค้นหาสถานที่น่าสนใจ การใช้Generative AIเข้ามาช่วยวางแผนการเดินทาง (Design My Trip)การเชื่อมต่อบริการสายด่วนฉุกเฉิน (SOS)ใช้นวัตกรรมAccess to AR MAPนำเสนอข้อมูลโซนต่าง ๆ พร้อมทั้งนำทางไปยังบูธที่สนใจภายในงาน และพลาดไม่ได้กับProduct ShowcaseและWorkshopนำเสนอภายใต้แนวคิดThe Wisdom and Wellness Experienceที่ถ่ายทอดประสบการณ์ศาสตร์แห่งการดูแลสุขภาพผสานThai Wisdomภูมิปัญญาล้านนาผ่านกิจกรรมเชิงสุขภาพที่สะท้อนอัตลักษณ์ ความเป็นไทยประยุกต์และความยั่งยืน ในมิติของ รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส จากผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในพื้นที่ภาคเหนือ อาทิ กิจกรรมนวดนิ้วมือการทำพวงกุญแจลูกประคบจิ๋ว การนวดแบบล้านนาด้วยท่วงท่าของสัตว์มงคล 5 ชนิด สาธิตการทำเมนูสมุนไพรเมี่ยงกลีบบัว การชงชาจากดอกไม้และสมุนไพร การทำยาดมสมุนไพร การทำสครับผิว และทำแผ่นหอมจากกลิ่นหอมระเหยที่เหมาะกับเรือนธาตุ การระบายสีพัดลายดอกไม้โดยใช้สีจากธรรมชาติMusic & Dancing Therapy (Mini Perform)ได้แก่ พิณเปี๊ยะและฟ้อนเจิง,Handpan,และ ขันธิเบตChiang Mai Holistic
ทั้งนี้ ในวันที่4มิ.ย. 2568ททท. ต้อนรับผู้เข้าร่วมงานด้วยกิจกรรมWelcome Receptionถ่ายทอดเรื่องราวความประทับใจผ่านเสน่ห์ไทยที่สอดคล้องกับ 5Must Do in Thailandให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์อันน่าจดจำ ถ่ายทอดความงดงามของศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น การตีกลองสะบัดชัย มวยโบราณ จัดเตรียมอาหารท้องถิ่นให้ได้ลิ้มลอง นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมPre-Tourจำนวน 9 เส้นทาง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ผ่านกิจกรรมที่หลากหลายของจังหวัดเชียงใหม่ เช่น การท่องเที่ยววิถีชุมชน การปั่นจักรยาน กิจกรรมกอล์ฟ การอาบน้ำช้างWalking Street Foodเป็นต้น และกิจกรรมPost-Tourจำนวน 6 เส้นทาง ระหว่างวันที่ 7-11 มิ.ย.2568 นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงสู่เมืองน่าเที่ยว จ.ลำปาง-แพร่-น่าน เส้นทางท่องเที่ยวเชิงอาหารใน จ.ขอนแก่น นำเสนอความสวยงามของธรรมชาติ ลิ้มรสอาหารถิ่นในเส้นทางภาคตะวันออก จ.ระยอง ชลบุรี ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ในเส้นทางภาคกลาง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในเส้นทางภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี โดยจะเน้นการนำเสนออัตลักษณ์ท้องถิ่นซอฟต์พาวเวอร์ไทยควบคู่ไปกับการสอดแทรกแนวคิดความยั่งยืนโดยแต่ละเส้นทางจะมีการคำนวณคาร์บอนด์ฟุตปริ้นท์ (Carbon Footprint) ทุกเส้นทาง