2025-05-12 HaiPress
เปิดปัจจัยสำคัญ ค่าเงินบาท ในสัปดาห์หน้า หลังจากทำสถิติแข็งค่าสุดในรอบกว่า 7 เดือน แตะระดับ 32.56 บาทต่อดอลลาร์ คาดกรอบต่อไป 32.60-33.60 บาทต่อดอลลาร์
🔊 ฟังข่าว
⏸️ หยุดชั่วคราว
🔄 เริ่มใหม่
“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” รายงานเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาแข็งค่าผ่านแนว 33.00 บาทต่อดอลลาร์ ไปแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 7 เดือนที่ 32.56 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาทได้รับอานิสงส์จากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก สถานะของเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าตลาดพันธบัตรไทย และแรงหนุนต่อค่าเงินเอเชียในภาพรวมตามการคาดหวังว่า การเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ น่าจะมีสัญญาณเชิงบวกในช่วงข้างหน้า
อย่างไรก็ดี เงินบาททยอยล้างช่วงบวกและอ่อนค่ากลับมาตามทิศทางของสกุลเงินอื่น ๆ ในเอเชีย และเงินหยวนที่มีปัจจัยลบจากการที่ธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยและ RRR ลงเพื่อประคองทิศทางเศรษฐกิจจีนที่เผชิญความเสี่ยงจากสงครามการค้า ขณะที่ เงินดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้น หลังการประชุมเฟดซึ่งมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐ ไว้ที่กรอบเดิม 4.25-4.50% ประกอบกับมีปัจจัยบวกจากการสรุปดีลการค้าเบื้องต้นระหว่างสหรัฐและอังกฤษ และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ออกมาดีกว่าที่คาด
ในวันศุกร์ที่ 9 พ.ค. 2568 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 33.01 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับ 33.06 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (2 พ.ค.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 6-9 พ.ค. 2568 นั้น นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 917 ล้านบาท และมีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 10,582 ล้านบาท (แบ่งเป็น ซื้อสุทธิพันธบัตร 11,082 ล้านบาท หักตราสารหนี้หมดอายุ 500 ล้านบาท)
สัปดาห์ระหว่างวันที่ 12-16 พ.ค. 2568 ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 32.60-33.60 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ราคาทองคำในตลาดโลก ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือน เม.ย. ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ค. ตลอดจนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2568 ของยูโรโซน อังกฤษและญี่ปุ่นเช่นกัน