2024-10-28 HaiPress
นักลงทุนมั่นใจศักยภาพ TNL ออกหุ้นกู้รอบ 2 ขายหมดเกลี้ยง ดีมานด์ล้นต้องเพิ่มวงเงินเป็น 700 ล้านบาท
นายกิตติชัย ตรีรัชตพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) หรือTNLผู้ประกอบธุรกิจบริการทางการเงินและธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ซึ่งถือหุ้นใหญ่โดบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)และบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่าหลังจากที่บริษัทได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่2ปรากฏว่าได้การตอบรับจากนักลงทุนอย่างล้นหลามที่เสนอความต้องการซื้อเข้ามาจำนวนมาก ทำให้บริษัทได้ตัดสินใจเพิ่มวงเงินการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ จาก300ล้านบาท เป็น700ล้านบาท ซึ่งได้ดำเนินการจัดจำหน่ายเสร็จสิ้นแล้ว
โดยหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นประเภทหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยเสนอขายต่อนักลงทุนสถาบันและ/หรือนักลงทุนรายใหญ่หุ้นกู้มีอายุ2ปี3เดือน อัตราดอกเบี้ย5.95%ต่อปี เสนอขายในระหว่างวันที่21-22และ24ตุลาคม2567ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ได้แก่ บล. เอเซีย พลัส และบล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง
สำหรับวัตถุประสงค์ของการออกหุ้นกู้ครั้งนี้นายนันทวัฒน์ สุรวัติเสถียร หัวหน้าคณะผู้บริหาร สายงานการเงินกล่าวว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้ไปให้กลุ่มบริษัทใช้ในการขยายพอร์ตสินเชื่อที่มีหลักประกันและ/หรือ จัดหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและทรัพย์สินรอการขาย และ/หรือ เพื่อลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย
“บริษัทยังคงเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ โดยเฉพาะการเข้าซื้อNPLsและNPAsจากธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินที่ได้มีการสินทรัพย์เหล่านี้ออกขายมากขึ้นในตลาดจึงเป็นโอกาสในการพิจารณาเข้าซื้อสินทรัพย์เหล่านี้ได้ในราคาที่เหมาะสมเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ธุรกิจและผู้ถือหุ้นได้โดยบริษัทยังคงยืนยันในการให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ และดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง”นายกิตติชัยกล่าว
นายกิตติชัยยังกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ในปี2566บริษัทได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้เป็นครั้งแรก อายุ2ปี ดองเบี้ยคงที่6.1%แก่นักลงทุนสถาบันและรายใหญ่ ซึ่งได้รับการตอบรับดีมากเช่นเดียวกัน จนต้องเพิ่มวงเงินจาก300ล้านบาทเป็น500ล้านบาท
ทั้งนี้ปัจจุบันหุ้นTNLได้ย้ายกลุ่มอุตสาหกรรมและหมวดธุรกิจไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน หมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่4กันยายน2567ที่ผ่านมา บริษัทประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company)และดำเนินธุรกิจผ่านบริษัทย่อย ซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจสินเชื่อที่มีหลักประกัน ธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและทรัพย์สินรอการขาย และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย