บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ประกาศต้องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 3.5% ในปีนี้

เมื่อไม่นานมานี้ ข้อเสนอของ ราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดแห่งแอตแลนต้า ในการ "หยุด" การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ดูเหมือนจะไม่ได้ผล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขาเซนต์หลุยส์ เรียกร้องให้ผู้กำหนดนโยบายขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 3.5% ในปีนี้ เพื่อดึงอัตราเงินเฟ้อกลับมาจากระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี และยังเสริมว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยบางส่วนอาจพลิกกลับได้ภายในสิ้นปีหน้าหรือในปี 2024

ในการพัฒนาเศรษฐกิจโลก บทบาทของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) คือการรักษาการดำเนินงานของตลาด ไม่ให้อยู่ในสถานการณ์การณ์เหนือการควบคุม และรักษาอัตราดอกเบี้ยทบต้นต่อปีของการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาวไว้ที่ประมาณ 5% ผลกระทบของนโยบายการเงินจะค่อยๆ สะท้อนออกมาเมื่อนโยบายการคลังไม่เป็นผล โดยปกติแล้วจะผ่านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ เมื่อนโยบายการคลังมีผลกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ก็มักจะเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและลดสภาพคล่อง ! เป็นกลไกของการพัฒนาเศรษฐกิจตลาด ! 

ตอนนี้เฟดแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม เปรียบเสมือน นกพิราบและเหยี่ยว

ในสองกลุ่มนั้น กลุ่มที่ให้ความสำคัญกับการควบคุมเงินเฟ้อคือเหยี่ยว ที่เรียกร้องนโยบายการเงินที่เข้มงวดโดยเร็วที่สุด เช่น การขึ้นอัตราดอกเบี้ย เช่นเดียวกับ บูลลาร์ด ในสหรัฐอเมริกา ที่เรียกร้องให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย

กลุ่มเหยี่ยว ถือเป็น ‘พันธมิตร’ กับกลุ่มดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง กลุ่มเหยี่ยวเป็นศัตรูของสกุลเงินอื่นที่ไม่ใช่ของสหรัฐฯ รวมถึงทองคำ และเงิน เป็นต้น ยิ่งเหยี่ยวแข็งแกร่งเท่าไร สกุลเงินอื่นที่ไม่ใช่ของสหรัฐฯ ไม่ว่าจะทองคำ หรือเงิน ก็จะยิ่งอ่อนค่าลง ในส่วนของกลุ่มนกพิราบที่มุ่งเน้นไปที่การกระตุ้นการจ้างงานเป็นหลัก ดังนั้นพวกเขาจึงสนับสนุนที่จะคงนโยบายการเงินแบบหลวม ๆ เป็นระยะเวลานานและสนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในภายหลัง  บอสติก ประธานเฟดแห่งแอตแลนต้าจึงถือว่าเป็นดั่งนกพิราบทั่วไป ดังนั้นนกพิราบจึงเป็นสัตรูกับเงินดอลล่าร์สหรัฐ ความคิดเห็นของพวกเขาจึงมีแนวโน้มไปในแนวยับยั้งเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

อุตสาหกรรมการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกหรือดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ก็คือการลงทุนในทองคำ เงิน และสินค้าโภคภัณฑ์ เนื่องจากข้อดีหลายๆ ข้อ จึงเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ที่มีนักลงทุนย้ายจากอุตสาหกรรมอื่น ๆ มายังอุตสาหกรรมทองคำ เงิน และสินค้าโภคภัณฑ์มากขึ้นเรื่อย ๆ การลงทุนด้านทองคำ เงิน และสินค้าโภคภัณฑ์ เป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตเต็มที่และมีแนวโน้มสูงในโลก

อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการลงทุนในอุตสาหกรรมทองคำ เงิน และสินค้าโภคภัณฑ์ควรเลือกสถาบันการเงินที่เหมาะสม ในบรรดาสถานบันการเงินนั้น MC900 อาจกล่าวได้ว่าเป็นสถาบันการลงทุนที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรม เป็นที่รู้กันว่าโครงสร้างเลเวอเรจที่สูงของพวกเขานั้น

สามารถดึงดูดนักลงทุนและได้รับการยอมรับจากนักลงทุนจำนวนมาก ในบรรดาการลงทุนผลิตภัณฑ์ทองคำ เงิน และสินค้าโภคภัณฑ์ที่หลากหลาย อัตราส่วนเลเวอเรจของสปอตทองคำสามารถสูงถึง 1:200 กล่าวคือ หากบุคคลต้องการซื้อทองคำ $100 เขาเพียงลงทุน $1 เพื่อรับสิทธิ์ในการใช้ $200 ดังนัั้นเขาต้องลงทุนเงินเพียงเล็กน้อยเพื่อใช้ในการเทรด

การลงทุนในทองคำ เงิน และสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และถือเป็น การวิเคราะห์การเงินและตลาด เทคโนโลยีนี้โดยทั่วไปมีนักลงทุนเพียงไม่กี่คนที่เข้าใจและคว้าโอกาสไว้ได้ ดังนั้น จากการพึ่งพาสถาบันการลงทุนด้านสินค้าโภคภัณฑ์จึงกลายเป็นรูปแบบการลงทุนที่สำคัญที่สุด MC900 ให้บริการด้านการลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์อย่างมืออาชีพ และการทำธุรกรรมในตลาดโลกทองคำตลอด 24 ชั่วโมง ในขณะเดียวกัน การวิเคราะห์ตลาดอย่างมืออาชีพยังได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุนจำนวนมาก